รีวิวหนัง Man Of Steel
"หนังฮีโร่ทีวินาศสันตะโรที่สุดเท่าที่เคยดูมา"
วันนี้ผมมีโอกาสได้ไปดู Man Of Steel มาครับ เลยอยากมาเล่าสู่กันฟังว่าเจ้าหนังเรื่องนี้มีดีอย่างไร และคุ้มค่าที่จะเสียตังค์ซื้อตั๋วไปดูหรือเปล่า (โรงหนังเดี๋ยวนี้ค่าตั๋วก็แพงแสนแพง นี่ยังไม่นับป็อบคอร์นกับน้ำนะ) ToT
ขอออกตัวไว้ก่อนเลยว่าผมดูหนังเรื่องนี้แค่รอบเดียวเท่านั้น อาจมีบางช่วงบางตอนที่ผมยังเก็บรายละเอียดได้ไม่หมด เนื่องจากตัวหนังค่อนข้างจะเดินเรื่องไปอย่างรวดเร็ว(โดยเฉพาะฉากต่อสู้) เอาเป็นว่ารีวิวเท่าที่ผมจำได้ก็แล้วกันนะครับ :)
ช่วงแรกของหนังเราจะได้เห็นดาวบ้านเกิดของซุปเปอร์แมน ซึ่งเป็นอะไรที่ต้องชมมากๆเลยครับ ทั้งทิมออกแบบฉาก ออกแบบเครื่องแต่งกาย และทีมเอฟเฟค เพราะทุกอย่างถือว่าอยู่ในขั้นดีเลยที่เดียว เทคโนโลยีต่างๆเป็นอะไรที่ดูล้ำสมัยและเข้ากับความเป็น Man Of Steel สุดๆครับ
สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตุเห็นได้เลยตั้งแต่ช่วงแรกๆก็คือ เอฟเฟคแสงวิบวับ คล้ายๆกับที่เราเห็นใน Star Trek ทั้งสองภาค แต่เรื่องนี้อาจมีไม่มากเท่า และผมก็ค่อนข้างจะชอบเอฟเฟคนี้เพราะมันดูแล้วตื่นตาตื่นใจดี คล้ายๆเวลาเราดูพลู (ว่าไปนั่น) ซึ่งบางคนอาจจะไม่ชอบเพราะมันแสบตาไป
Character :: ตัวละคร
พ่อ
ได้เวลามาพูดถึงตัวละครกันบ้าง กลุ่มแรกที่จะพูดถึงคือกลุ่ม "พ่อ" ครับ ใน Man Of Steel นี้ผมคิดว่าพ่อที่เป็นมนุษย์มีอิทธิพลมากในการหล่อหลอมให้บุรุษเหล็กของเราเติบโตขึ้นมาเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ เราสามารถเห็นได้ในหลายๆฉากว่า พ่อคนนี้มีแนวคิดที่จะให้บุรุษเหล็กของเรา ปกปิดซ่อนเร้นพลังของตัวเองไว้ เพราะเค้ากลัวว่าถ้าผู้อื่นรู้เข้าจะกลัวในสิ่งที่ลูกชายเป็น
ส่วนพ่อแท้ๆของเค้าก็เป็นคนที่มองการณ์ไกลและมีเมตตา เค้าหวังว่าจะให้ลูกชายช่วยชี้นำมนุษย์ชาติไม่ให้ก้าวไปในทางที่ผิดเหมือนพวกตน นักแสดงที่รับบทนี้ก็คือ รัสเซล โครว์ ซึ่งเค้าก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกๆฉากสมกับที่เป็นดารารางวัลออสการ์(นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก Gladiator)
นางเอก
บอกตรงๆเลยว่าครับแรกที่เห็นนางเอกคนนี้ในตัวอย่างหนัง ผมรู้สึกไม่ค่อยชอบหน้าเธอเท่าไหร แต่พอได้ดูหนังจริงๆผมกลับคิดว่าเธอค่อนข้างทำหน้าที่ได้ดี ทั้งการแสดงสีหน้าและแววตา(ตาสวย)
ก่อนดูหนังเรื่องนี้ผมเห็นหลายๆคนบอกว่าเรื่องนี้ทำได้ไม่ดีในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างนางเอกกับพระเอก แต่ผมกลับคิดว่าทุกอย่างดูโอเคแล้วนะ เอาเป็นว่าให้ผ่านละกัน
ตัวร้าย
คนนี้แหละครับคือบุคคลที่ผมคิดว่าแสดงได้ดีที่สุดในเรื่อง เค้าคนนั้นคือ ไมเคิล แชนนอน ผู้รับบทเป็นนายพลซ็อตตัวร้ายหลักของเรื่อง ผมคิดว่าเค้าทำได้ดีในทุกๆฉาก ไม่ว่าจะเป็นการแสดงสีหน้าเวลาโกรธ(ดูรูปสิครับ) การเป็นผู้ที่อุทิศตนให้แก่พวกพ้องและอุดมการณ์ และฉากต่อสู้ที่สุดแสนจะอลังการ(เรียกได้ว่า Avenger ชิดซ้าย) ที่สำคัญนายพลท่านนี้ยังปรับตัวเก่งอีกต่างหาก(ดูแล้วจะรู้)
เกราะท่านนายพลซ็อตเท่ห์สุดๆไปเลยครับ
จุดอ่อน
จริงๆอย่าเรียกจุดอ่อนเลยครับ เอาเป็นจุดที่ผมคิดว่าไม่สมจริงดีกว่า
จุดนั้นคือหน่วยทหารของมนุษย์ครับ ให้เราลองคิดตามนะ สถานะการณ์คือเอเลี่ยนมาโจมตีอเมริกา แต่การสั่งการโจมตีโต้ตอบทั้งหมดกลับอยู่ที่นายพลคนเดียว คนเดี่ยวนะครับย้ำว่าคนเดียว ซึ่งจริงๆแล้วเรื่องใหญ่แบบนี้การสั่งการน่าจะเป็นระดับผู้นำประเทศสั่งนะครับ นี้ยังไม่นับว่าการโจมตีจริงๆไม่ได้ส่งผมแค่อเมริกา แต่ส่งผลทั้งโลกนะ เรื่องใหญ่แบบนี้มันต้องถึงสหประชาชาติเลยแหละ (ว่าไปนั่น)
สรุป
เอาหละครับ บ่นมาซะเยอะแล้ว เรามาสรุปกันเถอะ
ในความคิดผม Man Of Steel ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี เป็นการคืนชีพให้กับฮีโร่เก่าแก่รายนี้ได้อย่างน่าชื่นชม ซุปเปอร์แมนภาคนี้ดูมีความเป็นคนมากขึ้น สำหรับผม ผมได้รับคำตอบหลายอย่างในสิ่งที่ผมเคยสงสัย (เช่น ตัว S ที่หน้าอกคืออะไร ,ใครเป็นคนออกแบบชุดให้ แล้วทำไมมันทนนัก ,ทำไมซุปเปอร์แมนถึงเป็นคนดีขนาดนี้ ฯลฯ) ทุกคำถามได้รับการอธิบายและผมก็ค่อนข้างจะพอใจกับคำตอบที่ได้รับ
สุดท้ายสิ่งที่ผมชอบมากที่สุดของหนังเรื่องนี้คือฉากต่อสู้ครับ หนังเรื่องนี้เป็น หนังฮีโร่ที่วินาศสันตะโรที่สุดเท่าที่เคยดูมา บางฉากทำให้ผมนึกถึง หนังเรื่องThe Matrix Revolutions(2003)ครับ มันคล้ายๆกันตรงที่เป็นการต่อสู้ระหว่างพวกเหนือมนุษย์เช่นเดียวกัน บางที่ก็ได้อารมณ์แบบดราก้อนบอลZ นะครับ
เอาหละครับ ตอนนี้ก็ดึกแล้ว เอาเป็นว่าผมขอจบเท่านี้ก็แล้วกันนะครับ ราตรีสวัสดิครับ!!!
ปล.ที่ผมไม่ได้พูดถึงพระเอกไม่ใช่เพราะลืมนะครับ แต่ยังไม่มีอะไรจะพูดตอนนี้ ไว้ดูรอบสองแล้วค่อยมาพูดดีกว่าครับ
ปล2.ถ้าใครคิดว่าจะไปดูหนังเอามันส์ เรื่องนี้ตอบโจทย์คุณได้ครับ