ผมรู้จักอัลบัมนี้ในช่วงที่ตกต่ำที่สุดในชีวิตผมก็ว่าได้ เป็นอัลบัมแรกที่ผมฟังจบทุกๆเพลง และฟังวันละหลายๆรอบด้วย เรียกได้ว่าถ้าเปรียบอัลบัมนี้เป็นคนๆหนึ่งแล้ว เค้าคงเป็นคนพิเศษของผมอย่างแน่นอน อัลบัมนี้มีความพิเศษและแตกต่างกับอัลบัมอื่นๆที่วางขายในเวลานั้นค่อนข้างมาก และความแตกต่างนี้เองที่ทำให้มันมีเอกลักษณ์และมีความพิเศษกว่าอัลบั้มทั่วๆไป
อัลบัม Born To Die ตัวเพลงจะเป็นแนวที่ ลาน่า(นักร้อง)เรียกว่า "Hollywood Sadcore" ผมเองก็ไม่รู้ครับว่ามันหมายถึงอะไร แต่ในความคิดผมดนตรีจะออกแนวย้อนยุคช่วงปี 60 รวมเข้ากับซาวด์ประกอบหลอนๆ แล้วก็เจือด้วยน้ำเสียงแบบเศร้าๆเข้าไป มันจึงเกิดเป็นส่วนผสมที่ลงตัวและโดนใจผมสุดๆไปเลยครับ แต่แนวเพลง Hollywood Sadcore นี้ก็เหมือนเป็นดาบสองคมเช่นเดียวกัน กล่าวคือถ้าใครชอบก็จะชอบจนเหมือนต้องมนต์สะกดเลยที่เดียว(เช่นผม เป็นต้น) ส่วนถ้าใครไม่ชอบฟังแล้วอาจจะลบเพลงทิ้งเลยก็ได้ครับ(น่าเสียดาย...)
และอีกสาเหตุที่ทำให้ผมชอบอัลบัมนี้ก็คือ...นักร้องครับ ลาน่า เดล เรย์ (Lana Del Rey) หรือชื่อจริงคือ อลิซาเบ็ธ วูลริดจ์ แกรนด์ เป็นคนที่สวยมาก สวยจนไม่รู้จะบรรยายยังไงเลยหละครับ เอาเป็นว่าดูรูปเองก็แล้วกัน
ได้ขึ้นปกนิตยสารมากมาย
ดูรูปจนอิ่มแล้ว เรามาเริ่มแนะนำแทร็คเด็ดๆในอัลบั้มนี้กันเลยดีว่า
Born To Die(10/10) เป็นแทรคเปิดอัลบัมที่ฟังแล้วรู้สึกถึงภาพรวมของอัลบัมนี้เป็นอย่างดี ขึ้นต้นเพลงด้วยเสียงเครื่องสายสวยๆ ตามด้วยน้ำเสียงเศร้าของลาน่า เรียกได้ว่าได้ยินแล้วถึงกับต้องเหลียวหลังมองเลยทีเดียว องค์ประกอบทุกอย่างทำได้ลงตัว แถมฟังง่ายด้วยนะ
Off To The Races(9.5/10) รอบแรกๆที่ฟังผมมักจะกดข้ามแทร็กนี้ครับ เพราะมันขึ้นต้นแปลกๆ(หัก 0.5) แต่พอเวลาผ่านไป ความชอบผมก็ยิ่งมากขึ้นเป็นเงาตามตัวครับ ยิ่งท่อนท้ายๆที่คุณเธอประเคนเครื่องสายกันมาแบบจัดเต็มแบบไม่ให้หายใจหายคอ เล่นเอาฟินกันเลยทีเดียว
Blue Jeans(9/10) แทรคนี้ฟังแล้วให้อารมณ์แก็งมาเฟียมาครับ(หรือผมคิดไปเอง?) ได้กลิ่นฮิฟฮอฟอ่อนๆด้วย เป็นแทรคที่แปลกพอๆกับแทรคก่อนหน้า ที่ผมชอบที่สุดคือ MV ครับ ถึงมันจะเป็นขาวดำ แต่มันสื่อให้เห็นถึงความน่ากลัวของคนรักได้ดีมาก(ก็เล่นลงไปว่ายน้ำกับจรเข้เลย)
Video Games(9.8/10) เพลงนี้เอาแค่เสียงระฆังตอนต้นก็ได้ใจผมไปครึ่งหนึ่งแล้วครับ ยิ่งได้น้ำเสียงของลาน่ากับเนื้อเพลงหวานๆเข้ามาอีก ชอบที่สุดก็คือท่อนที่ร้องว่า "Heaven is a place on earth with you" ถ้าเปรียบเพลงนี้เป็นผู้หญิงก็ต้องเป็นผู้หญิงสวยมากครับ สวยระดับเดียวกับนักร้องเลยก็ว่าได้ ข้อเสียเดียวของเพลงนี้ก็คือมันเนิบนาบไปนิด ฟังแล้วอาจจะหลับได้ครับ(หัก 0.2)
National Anthem(10/10) เป็นอีกแทรคที่ทำได้ลงตัวมากๆ เริ่มต้นดัวเสียงเครื่องสาย(ถูกใจอีกแล้ว) ตามมาด้วยเสียงพลุ และต่อด้วยเสียงร้องในสไตล์ของลาน่า ตบท้ายด้วยท่อนฮุกที่เหมือนยกเอาคณะประสานเสียงมาร้องให้ฟัง ทั้งหมดนี้บอกเลยว่าฟินแน่นอนครับ
Lucky Ones(9.5/10) แทรคปิดท้ายอัลบั้มครับ และก็เป็นแทรคที่หวานที่สุดในอัลบั้มเลยก็ว่าได้ ทั้งเนื้อเพลงและก็น้ำเสียงที่หวานปานจะกลืนกิน(ระวังมดขึ้นนะ) ฟังมากๆอาจจะเป็นเบาหวานได้
ลองไปหามาฟังกันนะครับ ไม่แน่ท่านผู้อ่านอาจจะต้องมนต์สะกดของลาน่าแบบที่ผมโดนอยู่ตอนนี้ก็เป็นได้ครับ
ปิดท้ายกันด้วยเอ็มวี Born To Die และ Blue Jeans
Blue Jeans(9/10) แทรคนี้ฟังแล้วให้อารมณ์แก็งมาเฟียมาครับ(หรือผมคิดไปเอง?) ได้กลิ่นฮิฟฮอฟอ่อนๆด้วย เป็นแทรคที่แปลกพอๆกับแทรคก่อนหน้า ที่ผมชอบที่สุดคือ MV ครับ ถึงมันจะเป็นขาวดำ แต่มันสื่อให้เห็นถึงความน่ากลัวของคนรักได้ดีมาก(ก็เล่นลงไปว่ายน้ำกับจรเข้เลย)
Video Games(9.8/10) เพลงนี้เอาแค่เสียงระฆังตอนต้นก็ได้ใจผมไปครึ่งหนึ่งแล้วครับ ยิ่งได้น้ำเสียงของลาน่ากับเนื้อเพลงหวานๆเข้ามาอีก ชอบที่สุดก็คือท่อนที่ร้องว่า "Heaven is a place on earth with you" ถ้าเปรียบเพลงนี้เป็นผู้หญิงก็ต้องเป็นผู้หญิงสวยมากครับ สวยระดับเดียวกับนักร้องเลยก็ว่าได้ ข้อเสียเดียวของเพลงนี้ก็คือมันเนิบนาบไปนิด ฟังแล้วอาจจะหลับได้ครับ(หัก 0.2)
National Anthem(10/10) เป็นอีกแทรคที่ทำได้ลงตัวมากๆ เริ่มต้นดัวเสียงเครื่องสาย(ถูกใจอีกแล้ว) ตามมาด้วยเสียงพลุ และต่อด้วยเสียงร้องในสไตล์ของลาน่า ตบท้ายด้วยท่อนฮุกที่เหมือนยกเอาคณะประสานเสียงมาร้องให้ฟัง ทั้งหมดนี้บอกเลยว่าฟินแน่นอนครับ
Lucky Ones(9.5/10) แทรคปิดท้ายอัลบั้มครับ และก็เป็นแทรคที่หวานที่สุดในอัลบั้มเลยก็ว่าได้ ทั้งเนื้อเพลงและก็น้ำเสียงที่หวานปานจะกลืนกิน(ระวังมดขึ้นนะ) ฟังมากๆอาจจะเป็นเบาหวานได้
ลองไปหามาฟังกันนะครับ ไม่แน่ท่านผู้อ่านอาจจะต้องมนต์สะกดของลาน่าแบบที่ผมโดนอยู่ตอนนี้ก็เป็นได้ครับ
ปิดท้ายกันด้วยเอ็มวี Born To Die และ Blue Jeans
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น